ผ้าเบรครถยนต์ต้องเปลี่ยนหรือไม่

ผ้าเบรครถยนต์ต้องเปลี่ยนหรือไม่

สำหรับการขับเคลื่อนทุกรูปแบบนั้น ผ้าเบรครถยนต์คือส่วนสำคัญมาก การทำงานที่สมบูรณ์แบบของระบบเบรคต้องสามารถตอบสนองอย่างรวดเร็วและแม่นยำต่อความต้องการของผู้ขับขี่ เช่น ไม่ว่าชะลอหรือหยุดรถกะทันหัน เมื่อเจอกับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงเพื่อป้องกันหรือลดอุบัติเหตุจากการเฉี่ยวชนที่ก่อให้เกิดอันตรายให้เหลือน้อยที่สุด บทความนี้จะนำเสนอว่าผ้าเบรครถยนต์ว่าเมื่อไหร่ที่ควรจะเปลี่ยน ไปดูกันเลยค่ะ

1. รู้หรือไม่ ระบบเบรครถยนต์แบบไฮโดรลิกแบ่งออกเป็น 2 แบบ มีดังนี้
   1. 1. ดิสก์เบรค (Disc Brake)

ดิสก์เบรคเป็นระบบเบรคใหม่ที่นิยมกันมาก การทำงานโดยดันผ้าเบรครถยนต์ให้สัมผัสกับจานเบรคเพื่อให้รถหยุด รถยนต์บางรุ่นใช้ดิสก์เบรคทั้ง 4 ล้อ บางรุ่นใช้เฉพาะล้อหน้า มีข้อดีคือ ลดอาการเฟด (เบรคหาย) เนื่องจากอากาศถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่าดรัมเบรค เมื่อเปียกน้ำผ้าเบรครถยนต์จะสลัดน้ำออกจาก ในขณะที่ดรัมเบรคน้ำจะขังอยู่ภายในและใช้เวลาถ่ายเทค่อนข้างช้า ข้อเสียคือ ไม่มีระบบ Servo action หรือ multiplying action เหมือนกับดรัมเบรค ผู้ขับจึงต้องออกแรงมากกว่าจึงต้องใช้ระบบเพิ่มกำลัง เพื่อเป็นการผ่อนแรงขณะเหยียบเบรคทำให้ระบบเบรคนี้มีราคาค่อนข้างแพงกว่าดรัมเบรคนั้นเอง

2. 2. ดรัมเบรค (Drum Brake)

สำหรับดรัมเบรคจะติดตั้งแน่นกับลูกล้อ จะทำงานเมื่อมีการถ่างก้ามเบรคให้เสียดสีกับตัวเบรคจะทำให้ล้อหยุด ชนิดนี้ใช้มากในรถบรรทุกทั้งขนาดใหญ่และเล็ก มีรถยนต์ส่วนบุคคลบางรุ่น รถบางรุ่นอาจใช้ระบบเบรคนี้เฉพาะล้อหลัง สำหรับข้อดีคือ มีความสามารถในการหยุดรถได้เร็ว เพราะก้ามเบรคและดรัมเบรคถูกยึดติดกับดุมล้อ ส่วนข้อเสียคือ ความร้อนที่เกิดจากการเสียดสีระหว่างผ้าเบรครถยนต์ในดรัมเบรคนั้น ไม่สามารถถ่ายเทความร้อนได้ดี บางครั้งทำให้ผ้าเบรคมีอุณหภูมิสูงมาก มีผลทำให้ประสิทธิภาพการเบรคลดลง

2. ผู้ใช้รถต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ควรเปลี่ยนผ้าเบรกรถยนต์

1. ควรเปลี่ยนผ้าเบรครถยนต์ทุก ๆ 25,000 กิโลเมตร แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับลักษณะการขับและการใช้เบรคหากบรรทุกของหนักและขับรถด้วยความเร็วอายุผ้าการใช้งานนั้นจะสั้นกว่า แต่ถ้าหากเป็นผ้าเบรคที่มีส่วนผสมของโลหะสูง อายุการใช้งานจะยาวกว่าผ้าเบรคเกรดที่มีส่วนผสมของโลหะต่ำ

2. เมื่อไหร่ที่เบรคแล้วมีเสียง คล้ายเหล็กครูด เสียดสีกันอาจเกิดจากคลิปผ้าเบรคครูดกับจานเบรค เป็นสัญญาณเตือนว่าควรเปลี่ยนผ้าเบรครถยนต์ แต่กรณีนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากผ้าเบรคหมดเสมอไป ดังนั้นควรให้ช่างตรวจดูความผิดปกติอื่น ๆ เสมอ

3. ต้องเปลี่ยนผ้าเบรครถยนต์เมื่อมีความหนาน้อยกว่า 4 มม. และก้ามเบรคมีผ้าเบรคน้อยกว่า 1 มม. หรือผ้าเบรคเหลือน้อยกว่า 30 %

4. เปลี่ยนผ้าเบรครถยนต์เมื่อมีคราบน้ำมันหรือจารบีมากผิดปกติ

5. ควรจะเปลี่ยนผ้าเบรกรถยนต์ทันที เมื่อระบบเบรกมีรอยร้าวบนดิสก์เบรกหรือก้ามเบรก บทความจาก ล็อตโต้สด Lottosod888 เว็บแทงหวยออนไลน์