
ในปัจจุบันนี้หลาย ๆ คนเริ่มหันมาสนใจรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่ารถยนต์น้ำมัน ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลรักษา ระหว่างรถยนต์สันดาปภายใน (INTERNAL COMBUSTION ENGINE: ICE) กับรถยนต์ไฟฟ้า (ELECTRIC VEHICLE: EV) ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ติดตามกันได้เลยจ้า
ความแตกต่างในการดูแลรักษารถยนต์ที่ใช้น้ำมันและรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้า

1. เครื่องยนต์และเวลาที่เสื่อมสภาพ
เครื่องยนต์ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนภายในนับร้อยนับพันชิ้น เมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ ก็ต้องเกิดการเสื่อมสภาพ จำเป็นต้องซ่อมแซมกันไปตามระยะทาง ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นก็มีราคาทั้งถูกและแพงปะปนกันไป ซึ่งแตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าอย่างสิ้นเชิง เพราะรถยนต์ไฟฟ้ามีเพียงมอเตอร์เท่านั้นที่ใช้สำหรับการขับเคลื่อนจะมีอุปกรณ์ ส่วนควบของมอเตอร์บ้าง แต่ไม่มีอะไรซับซ้อนการดูแลรักษามีน้อยกว่ามากกว่า และมอเตอร์นั้นมีอายุยาว
2. ยางรถยนต์
ยางรถยนต์เป็นอุปกรณ์ส่วนควบของรถที่ต้องสัมผัสกับพื้นถนนอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์น้ำมันหรือรถยนต์ไฟฟ้า เรื่องการดูแลรักษายางหรือภาระค่าใช้จ่ายจึงเหมือนกัน ดังนั้นรถยนต์ทั้ง 2 แบบ จึงเสมอกันในข้อนี้

3. การเช็คระยะถ่ายน้ำมันเครื่อง
การเช็คระยะถ่ายน้ำมันเครื่อง รถยนต์น้ำมันทุกคันเมื่อซื้อจากโชว์รูมไปใช้งานแล้วจะต้องนำรถกลับเข้าศูนย์บริการ เพื่อเช็คระยะและถ่ายน้ำมันเครื่องซึ่งระยะเวลานั้นขึ้นอยู่กับผู้ผลิตกำหนด แต่ส่วนใหญ่จะกำหนดทุก 10,000 กม. หรือ 6 เดือน แล้วแต่ระยะไหนจะถึงก่อน แต่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแล้วสิ่งเหล่านี้สามารถมองข้ามไปได้เลย เพราะรถยนต์ไฟฟ้าไม่มีเครื่องยนต์ให้ต้องถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะจะมีก็เพียงน้ำมันเบรค น้ำยาหล่อเย็นและน้ำยาแอร์เท่านั้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ต้องตรวจเลยผู้ผลิตหลายค่ายกำหนดระยะทางให้นำรถยนต์ไฟฟ้าเข้าศูนย์บริการเหมือนกัน แต่เป็นเพียงการตรวจเช็คความเรียบร้อยเพื่อการันตีคุณภาพเท่านั้น

4. การเสื่อมสภาพแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า
แบตเตอรี่เปรียบเสมือนหัวใจของรถไฟฟ้า ถ้าไฟในแบตเตอรี่หมดรถยนต์ไฟฟ้าก็ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ ตามปกติแล้วแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า จะมีค่าการเสื่อมสภาพลงทีละน้อยทุกปี (เติมไฟเต็ม 100 % ปีนี้ ได้ระยะทางวิ่งน้อยกว่าปีที่แล้ว) และแบตเตอรี่ก็มีราคาสูง เช่น แบตเตอรี่ TESLA (เทสลา) อยู่ที่ประมาณ 160,000-220,000 บาท ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นในรถยนต์ที่ใช้น้ำมันอย่างแน่นอน

5. ไอเสีย มลพิษ และการดูแลรักษา
ไอเสีย มลพิษ รถยนต์ ICE ที่ใช้น้ำมันทุกคัน เมื่อติดเครื่องยนต์จะปล่อยไอเสียกลิ่นเหม็นที่ประกอบไปด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2), ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SULFUR DIOXIDE), ไฮโดรคาร์บอน(HYDROCARBON), ไนตริคออกไซด์ (NO), ไนโตรเจนออกไซด์ (NOx), อัลดีไฮด์ (ALDEHYDE) โดยมีตัวร้ายอย่าง คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) แก๊สพิษมัจจุราชที่ฆ่าชีวิตผู้คนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์มานักต่อนักแล้ว
แต่รถยนต์ไฟฟ้าข้อนี้เป็นศูนย์คือ ไม่มีมลพิษเลยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทำให้การดูแลรักษาระบบไอเสียอย่าง แคทาไลทิค คอนเวอร์เตอร์ (CATALYTIC CONVERTOR) ไม่มีข้อนี้รถไฟฟ้าทำได้ดีมาก
รถยนต์น้ำมันและรถยนต์ไฟฟ้ามีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป แต่ผู้คนสมัยนี้ส่วนใหญ่ก็หันมาสนใจรถยนต์ไฟฟ้า เพราะนอกจากประหยัดค่าเชื้อเพลิงแล้วยังช่วยลดมลพิษทางอากาศได้อีกด้วย บทความดีๆจากล็อตโต้สด