All-new MG7 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีน

by autocar
 MG7

All-new MG7 ถูกวางให้เป็นรถยนต์นั่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดภายใต้แบรนด์ MG ใกล้เคียงกับรถ Toyota Camry และ Honda Accord เป็นต้น มาพร้อมตัวถังสไตล์ฟาสต์แบ็กที่เน้นความโฉบเฉี่ยว มีขนาดความยาวตลอดคันอยู่ที่ 4,884 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,889 มิลลิเมตร ความสูง 1,447 มิลลิเมตร และความยาวฐานล้อ 2,778 มิลลิเมตร

All-new MG7 กับความโฉบเฉี่ยวของไฟ

 MG7

All-new MG7 มาด้วยไฟหน้าแบบ LED ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดวงตาของแมว พร้อมด้วยหน้าต่างประตูแบบไร้กรอบสไตล์รถยนต์สปอร์ต โดดเด่นยามค่ำคืนด้วยไฟท้ายแบบ LED ที่ถูกออกแบบให้พาดยาวตลอดความกว้างของตัวรถยนต์ รวมถึงสปอยเลอร์เหนือฝากระโปรงท้ายที่สามารถยกตัวขึ้นอัตโนมัติ เมื่อใช้ความเร็วมากกว่า 100 กม./ชม. และจะพับเก็บลงเมื่อความเร็วลดลงต่ำกว่า 70 กม./ชม.

ด้านท้ายที่น่าจะเป็นส่วนที่น่าสนใจที่สุดของ All-new MG7 ด้วยซุ้มล้อหลังที่เด่นชัด ไฟท้าย LED แบบเต็มความกว้าง กระจกบังลมด้านหลังที่ลาดเอียงอย่างมาก สปอยเลอร์ทรงหางเป็ดและท่อไอเสีย 4 ท่อ นอกจากนี้ยังมีสปอยเลอร์หลังแบบแอ็คทีฟแบบ 3 ส่วน ที่คล้ายกับ Porsche Panamera 

ภายในห้องโดยสารของ All-new MG7

 MG7

ประกอบไปด้วยแบบ 5 ที่นั่ง ถูกติดตั้งเบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มด้วยหนัง Silk Nappa ที่ให้ความเนียนละเอียดเป็นพิเศษ พร้อมด้วยหน้าจอ All-in-one ขนาด 33 นิ้ว ทอดตัวอยู่เหนือแผงคอนโซล สามารถแสดงข้อมูลนำทางแบบเสมือนจริง AR-HUD ได้ เสริมความพรีเมียมด้วยวัสดุ Exclusive Dinamica ที่ให้สัมผัสเฉกเช่นรถยนต์ระดับหรู และระบบเสียงรอบทิศทางจาก BOSE ที่ประกอบด้วยลำโพงถึง 14 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาและเบาะนั่งแบบสปอร์ตพร้อมพนักพิงศีรษะในตัว

การขับเคลื่อนของ All-new MG7

 MG7

สำหรับขุมพลังของ All-new MG7 เป็นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ VGT ขนาด 2.0 ลิตร เป็นรถยนต์รุ่นแรกของ Black Label Series ที่เน้นสไตล์ที่หรูหราและความสปอร์ต ให้กำลังสูงสุด 261 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 405 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ พร้อมระบบลิมิเต็ดสลิปไฟฟ้า E-LSD ที่สามารถถ่ายเทแรงบิดได้ตั้งแต่ 0-100% เพื่อประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน และช่วงล่าง mCDC ปรับความหนืดได้อัตโนมัติขึ้นอยู่กับสภาพถนนในขณะนั้น

MG7 เปิดตัวด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน 2 รุ่น รุ่นปลั๊กอินไฮบริดจะตามมาทีหลัง ในรุ่นเริ่มต้น 300 VTGI จะติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จขนาด 1.5 ลิตร ที่ให้กำลัง 183 แรงม้า และแรงบิด 300 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปยังเพลาหน้าผ่านกระปุกเกียร์อัตโนมัติ DCT 7 จังหวะ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพที่มาก จะมีรุ่นที่สูงกว่าอย่าง 405 VTGI Trophy จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 254 แรงม้า มีแรงบิด 405 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะของ ZF ส่งกำลังไปยังเพลาหน้าเช่นกัน 

All-new MG7 รุ่นนี้อาจจะดูดุดันด้วยสัดส่วนที่เตี้ย เส้นหลังคาสไตล์ฟาสต์แบ็กที่โฉบเฉี่ยว ประตูแบบไร้กรอบ ล้ออัลลอยขนาดใหญ่และแผงตัวถังที่ออกแบบด้วยเส้นสายที่สลับซับซ้อน บทความดีๆจากล็อตโต้สด Lottosod888 เว็บแทงหวยออนไลน์ที่มีทีมงานมืออาชีพ ดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง

Leave a Comment