6 พฤติกรรมที่อาจจะทำร้ายรถยนต์ มาเช็คกัน!!

by autocar
รถยนต์

6 พฤติกรรมที่อาจจะทำร้ายรถยนต์ มาเช็คกัน!!

รู้ไหมว่าสำหรับการขับรถยนต์ที่ไม่ถูกต้องนั้น ไม่เพียงลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ยังเป็นการรักษาอายุการใช้งานให้ยาวนาน รถยนต์ทำงานอย่างสมบูรณ์เต็มประสิทธิภาพ ไม่เกิดการสึกหรอสูงกว่าปกติและก่อปัญหาจุกจิกกวนใจตามมาในระยะยาว ดังนั้น ออโต้คาร์ จะพามาเช็คว่าเรามีพฤติกรรมอันตรายที่ทำร้ายรถยนต์โดยไม่รู้ตัวไหม เพื่อที่จะได้รีบปรับปรุงแก้ไขได้ ไปดูกันเลย

  1. 6 พฤติกรรมอันตรายที่ทำร้ายรถยนต์โดยไม่รู้ตัว
รถยนต์

1. ลมยางรถยนต์ การเดินทางทั่วไปควรเติมลมยางตามมาตรฐาน ที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนดไว้ ถ้าต้องเดินทางไกลให้เพิ่มแรงดันลมยางสูงขึ้นอีก 2 – 3 ปอนด์ ลมยางอ่อนกว่ามาตรฐานจะทำให้ยางด้านนอกสึกมากกว่าด้านในและเสี่ยงเกิดยางระเบิดมากกว่า

2. ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ ควรเช็คอุปกรณ์ใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ทุกชนิดว่าปิดการใช้งานหรือไม่ เพื่อไม่ให้ดึงกำลังไฟในการสตาร์ท และที่สำคัญสตาร์ทรถแล้วก็ไม่ควรเหยียบคันเร่งออกรถไปทันที อุ่นเครื่องยนต์ประมาณ 2 – 3 นาที เพื่อให้เครื่องยนต์ร้อนมากพอลดความหนืดของน้ำมันเครื่องสามารถไหลเข้าไปหล่อลื่นส่วนต่าง ๆ ช่วยลดความสึกหรอ ส่งผลเครื่องยนต์มีอายุใช้งานนานขึ้น ตัวอย่างเช่น ไม่ควรเปิดแอร์ทิ้งไว้ เพราะการสตาร์ทเครื่องยนต์จะทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์เริ่มทำงานทันที ทำให้มีการกระชากเป็นผลให้อายุการใช้งานของคอมเพรสเซอร์แอร์สั้นลง ที่สำคัญการปิดคอมเพรสเซอร์ก่อนดับเครื่องยนต์ อย่างน้อย 5 – 10 นาที จะไล่ความชื้นในตู้แอร์ ไม่เป็นแหล่งสะสมฝุ่น สามารถยืดอายุตู้แอร์และลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์จากความชื้นอีกด้วย

รถยนต์

3. พฤติกรรมความเคยชินกับการวางเท้าไว้บนแป้นคลัทช์ตลอดเวลา ส่งผลให้ผ้าคลัทช์และฟลายวีลสึกหรอเร็วกว่าปกติ 

4. ขณะรถติดไฟแดง สำหรับเกียร์ธรรมดาควรปลดเกียร์ว่างและเหยียบเบรกป้องกันรถไหล ส่วนผู้ขับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติควรปลดเกียร์ว่างและดึงเบรกมือ ไม่ควรเหยียบเบรกและคาเกียร์ไว้ที่ตำแหน่ง

5. เมื่อขับผ่านลูกระนาด ฝาท่อ คอสะพาน และขับผ่านเส้นทางขรุขระโดยไม่ชะลอความเร็ว จะส่งผลโดยตรงต่อช่วงล่างต่าง ๆ ทั้งส่วนโช้คอัพ สปริง ลูกหมาก ปีกนกและแร็คพวงมาลัย ทำให้ต้องรับแรงกระแทกมาก อายุการใช้งานของอุปกรณ์ก็จะสั้นลง

6. สำหรับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ควรเลี่ยงการจอดรถบนทางลาดชันเป็นประจำ เพราะจะทำให้สลักล็อคเกียร์รับภาระน้ำหนักรถมาก เมื่อดึงคันเกียร์จากตำแหน่ง P มาเป็นเกียร์ R จะมีเสียงดัง เพราะตัวล็อคเกียร์ขัดรุนแรงและเข้าเกียร์ยากด้วย ถ้าจำเป็นต้องจอดรถบนทางลาดชันให้จอดรถจนนิ่งสนิทเรียบร้อย แล้วดึงเบรกมือ ขึ้นจนสุดก่อนจะปล่อยเบรกเท้า เมื่อแน่ใจว่ารถไม่ไหลแล้วจึงเลื่อนเกียร์ไป N แล้วใส่เกียร์ P เป็นขั้นตอนบำรุงรักษาเกียร์แบบง่าย ๆ ที่ควรฝึกให้เคยชิน บทความดีๆ จาก ล็อตโต้สด

ทั้งหมดนี้เป็นพฤติกรรมอันตราย ที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านในการถนอมดูแลรถยนต์อย่างถูกวิธี เพื่อยืดอายุการใช้งานไปอีก

รถยนต์

Leave a Comment